3 หนัง 3 คลื่นใหญ่: แผนรอด-โต สำหรับธุรกิจไทยในโลกหลังยุคทรัมป์

บทเรียนจาก ดร.สมเกียรติ ตั้งกิจวานิชย์ (TDRI) ที่บรรยายในหลักสูตร วธอ. Next Gen 1 ผ่าน 3 หนังดัง—Top Gun, Twister, Her—สู่แนวคิดหาตลาดใหม่และสร้างนวัตกรรมเพื่ออนาคตธุรกิจไทย

บทความโดยคุณแคสเปอร์-ธนกฤษณ์ เสริมสุขสัน ผู้ก่อตั้ง SEA Bridge

มองวิกฤตและการเปลี่ยนแปลงผ่านหนังสามเรื่อง

ทีมผู้บริหาร SEA Bridge ได้มีโอกาสเข้าเรียนในหลักสูตร ผู้นำธุรกิจรุ่นใหม่: กลยุทธ์รอดและโตในโลกเศรษฐกิจใหม่ (วธอ. Next Gen รุ่นที่ 1) และได้รับฟังการบรรยายโดย ดร. สมเกียรติ ตั้งกิจวานิชย์ (TDRI) ที่ใช้ภาพยนตร์ 3 เรื่อง — Top Gun Maverick, Twister, Her — เป็นกรอบอธิบาย 3 คลื่นใหญ่ที่กำลังกระแทกโลกธุรกิจ: ภูมิรัฐศาสตร์ (Geopolitics), ภูมิอากาศ (Climate) และเทคโนโลยี/AI (Technology)

บทความนี้สรุปภาพใหญ่จากระดับประเทศ แล้วลึกลงมาที่ “สิ่งที่ธุรกิจของเรา ที่ผู้ประกอบการและทายาทธุรกิจ NextWave ต้องลงมือทำจริง” — ไม่ว่าเน้นการหาตลาดใหม่ทดแทนและลดความเสี่ยง รวมไปถึงการสร้างนวัตกรรมให้เป็นหัวใจหลักของธุรกิจของเรา

1) Top Gun Maverick = ภูมิรัฐศาสตร์ (Geopolitics) — เมื่อเกมโลกเปลี่ยนเวที

ภาพรวมระดับประเทศ

Top Gun ภาคแรกกับภาคสองห่างกัน 36 ปี — ภาคแรกสู้เปิดเผยกับสหภาพโซเวียต ขณะที่ภาคสองต่อสู้แบบ “ไม่ระบุชื่อประเทศ” แต่ชี้ชัดถึงความตึงเครียดในภูมิภาคอินโด–แปซิฟิก ซึ่งสะท้อนสถานการณ์จริง: เมื่อน้องใหม่ (จีน) ขึ้นมาท้าทายเบอร์หนึ่ง (สหรัฐฯ) โลกยากที่จะหลีกเลี่ยงความขัดแย้ง เงื่อนไขทางการค้าที่เข้มงวดขึ้น เช่น นโยบายภาษีนำเข้า (Trump Tax), การกีดกันทางเทคโนโลยี และความไม่แน่นอนในซัพพลายเชน จึงกลายเป็นความจริงที่ธุรกิจต้องเผชิญ

เราในฐานะประเทศเล็กต้องคิดอย่างไร

  • เข้าใจว่า “ขาดดุลการค้า ≠ ขาดทุน” — การนำเข้าเพื่อขยายมูลค่า/เชนการผลิตอาจเป็นกลยุทธ์ที่ชาญฉลาด
  • มองการปรับกติกาเป็นโอกาส: การบังคับใช้มาตรฐาน เช็กแหล่งที่มา (origin) และปราบสินค้าปลอม จะช่วยให้สินค้าไทยมีคุณค่ามากขึ้นในตลาดที่กดดันด้านราคา

สิ่งที่ธุรกิจควรทำ (จากภาพประเทศสู่แผนของเรา)

  • หาตลาดใหม่ที่ลดความเสี่ยงจากมหาอำนาจเดียว: ขยายสัดส่วนการขายไปยังอาเซียน อินเดีย ตะวันออกกลาง และตลาด niche ในยุโรปที่ยังเปิดรับสินค้าที่มีคุณภาพ/เอกลักษณ์
  • ยกระดับมาตรฐานสินค้าให้ผ่านเกณฑ์ระหว่างประเทศ: ลงทุนในการรับรอง (certification), traceability และเอกสารที่พิสูจน์แหล่งที่มา เพื่อลดความเสี่ยงจากมาตรการตอบโต้
  • คิดผลิตภัณฑ์ที่ไม่แข่งราคาแต่แข่งคุณค่า: เพิ่มบริการหลังการขาย, ใส่มาตรฐานความยั่งยืน, หรือออกแบบสินค้า premium ที่จับกลุ่มใหม่ได้ง่ายขึ้น

2) Twister = ภูมิอากาศ (Climate) — พายุที่ไม่ได้มาเล่น ๆ

ภาพรวมระดับประเทศ

ข้อมูลจากการบรรยายชี้ว่าไทยเป็นหนึ่งในประเทศที่เสี่ยงต่อภาวะโลกร้อนสูงสุด ผลกระทบจะไม่ใช่แค่ธรรมชาติแต่เป็นตัวเลขทางเศรษฐกิจ: เกษตร ท่องเที่ยว และแรงงานได้รับผลกระทบมากที่สุด การบังคับใช้มาตรการคาร์บอนหรือ CBAM ในตลาดส่งออกกำลังกลายเป็นเงื่อนไขทางการค้า

เราในฐานะธุรกิจต้องทำอะไร

  • เปลี่ยน “ความยั่งยืน” จากคำโฆษณาเป็น “เงื่อนไขทางธุรกิจ” เช่น การวัดคาร์บอนฟุตพริ้นท์ของผลิตภัณฑ์ และการออกแบบวงจรผลิตที่ทนต่อความเปลี่ยนแปลงของสภาพอากาศ
  • พัฒนา “สินค้า-บริการ” ที่ตอบโจทย์ตลาดใหม่ในยุคโลกร้อน เช่น บรรจุภัณฑ์ที่ลดการปล่อยคาร์บอน, หรือผลิตภัณฑ์สำหรับลูกค้าระดับกลาง-บนที่ต้องการความรับผิดชอบต่อสิ่งแวดล้อม

สิ่งที่ธุรกิจต้องลงมือ (จากภาพประเทศสู่แผนของเรา)

  • ออกแบบสินค้าใหม่ (NPD) ที่ใช้ทรัพยากรน้อยลงหรือใช้ทรัพยากรหมุนเวียนได้
  • ปรับห่วงโซ่อุปทาน ให้มีแหล่งวัตถุดิบทางเลือก (sourcing diversification) และให้ซัพพลายเออร์ยกระดับมาตรฐานสิ่งแวดล้อมร่วมกัน
  • สื่อสารความยั่งยืนเป็นจุดขาย กับลูกค้าต่างประเทศที่พร้อมจ่ายเพิ่มเพื่อสินค้าที่มี transparency เรื่องคาร์บอน

อ่านบทความ: ESG สำหรับนักส่งออกไทย: เปลี่ยนภาระ 'ความรับผิดชอบ' ให้เป็นกลยุทธ์แห่งการเติบโต

3) Her = เทคโนโลยีและ AI — จากภาพยนตร์สู่สายพานการผลิต

ภาพรวมระดับประเทศ

AI ไม่ใช่แค่ทฤษฎีอีกต่อไป—มีการนำไปใช้จริงในโรงพยาบาลและภาคการผลิต ตัวอย่างเช่นการใช้ AI ตรวจคุณภาพผลิตภัณฑ์ทางอาหารและการแพทย์ ดังที่ดร.สมเกียรติชี้ว่า AI จะสร้างมนุษย์ 4 แบบในเศรษฐกิจใหม่: ผู้ที่เก่งและใช้ AI, ผู้ที่ไม่เก่งแต่ใช้ AI, ผู้เก่งแต่ไม่ใช้, และผู้ไม่เก่งและไม่ใช้ — ซึ่งจะกำหนดความเร็วในการเติบโต

เราในฐานะธุรกิจต้องมองอย่างไร

  • AI คือเครื่องมือสร้างขีดความสามารถ (capability) ไม่ใช่ทดแทนผู้คนโดยทันที แต่ผู้ที่ใช้เป็นจะได้เปรียบเรื่องคุณภาพและต้นทุน
  • การนำ AI มาใช้ต้องเริ่มจากปัญหาเชิงธุรกิจ เช่น การลดการคืนสินค้า การเพิ่มประสิทธิภาพผลิตภัณฑ์ หรือการปรับปรุงประสบการณ์ลูกค้าแบบหลายภาษา

สิ่งที่ธุรกิจต้องทำ (จากภาพประเทศสู่แผนของเรา)

  • เลือก Use Case ที่ชัดเจน สำหรับการลงทุน AI (เช่น inspection, translation, demand sensing) แล้ววัด ROI ให้ชัด
  • ยกระดับทักษะคนในองค์กร ให้เข้าใจการใช้ AI แบบปฏิบัติจริง ไม่ใช่แค่ทฤษฎี
  • รวมข้อมูลจากซัพพลายเชน เพื่อให้ AI ทำงานได้มีประสิทธิภาพ เช่น ข้อมูลแหล่งที่มา, การขนส่ง, และข้อมูลลูกค้า

อ่านบทความ: ใช้ AI อย่างไรให้ส่งออกได้จริง: คู่มือเริ่มต้นสำหรับ SME ไทย พร้อมตัวอย่างการใช้ Prompt

การเข้าหลักสูตรและฟังมุมมองจาก ดร. สมเกียรติ ทำให้เราชัดเจนว่าโลกกำลังเดินผ่านจุดเปลี่ยนครั้งใหญ่ที่ต้องใช้ความกล้าและความคิดสร้างสรรค์ในการตอบโจทย์ SEA Bridge มองว่า ธุรกิจยุคใหม่และทายาทธุรกิจไทยไม่ควรรอให้พายุผ่านไป แต่ต้องออกแบบสินค้าที่เหมาะกับโลกใหม่ หาตลาดที่ทนต่อความผันผวน และใช้เทคโนโลยีเป็นเครื่องมือยกระดับ นี่คือเหตุผลที่เราอยากแบ่งปันองค์ความรู้เหล่านี้ให้วงกว้าง — เพื่อให้ผู้ประกอบการไทยหลายรายพร้อมกันก้าวสู่ยุคใหม่ได้อย่างมีพลังและยั่งยืน ดั่งคำยึดมั่นของบริษัท SEA Bridge - The Cross-Border Venture Builder

SEA Bridge helps ambitious family successors and ASEAN’s top 1% talent build bold companies they never thought possible — and scale them globally, turning ASEAN’s originality into legacy brands the world loves.

SEA Bridge เปิดทางให้ทายาทธุรกิจที่มีวิสัยทัศน์ และ Top 1% ของคนเก่งอาเซียน สร้างบริษัทแห่งความฝัน ทำธุรกิจที่ไม่เคยคิดว่าทำได้ ด้วยนวัตกรรมที่เป็นจริง — พร้อมพิชิตตลาดโลก เปลี่ยนเอกลักษณ์อาเซียนให้เป็นแบรนด์ระดับโลกที่ทุกคนหลงใหล

สามารถเริ่มศึกษาและวิเคราะห์ธุรกิจตัวเองผ่านกลยุทธ์ FISH Capital ได้ที่นี่

บทความอื่น ๆ ที่น่าสนใจ

ตลาดใหม่ ๆ

กลยุทธ์ใหม่ ๆ

Exploring the Latest in Our Blog

Related Insights