โอกาสใหม่ในเมียนมา: ตลาดเพื่อนบ้านที่ “พ่อตายังไม่ปล่อยลูกสาวให้” แต่ไทยยังมีสิทธิ์ชนะใจ

เมียนมายังเป็นตลาดศักยภาพสูงสำหรับ SME ไทยในกลุ่ม FMCG, ความงาม, Wellness และ Platform แม้เผชิญความท้าทายทางเศรษฐกิจและกฎระเบียบ แต่โอกาสยังเปิดกว้าง โดยเฉพาะสำหรับผู้ที่เข้าใจเส้นทางที่ใช่

ตลาดเมียนมา โอกาสใหม่ของ SME ไทยท่ามกลางพายุเศรษฐกิจ

เมียนมาอาจอยู่ในสถานการณ์ที่ท้าทาย แต่ข้อมูลจาก SCB ITP 7 "ตลาดน่าลอง" บรรยายโดยท่านอัครราชทูตที่ปรึกษา (ฝ่ายการพาณิชย์) ณ กรุงย่างกุ้ง สะท้อนว่า "ตลาดนี้ยังน่าลอง" โดยเฉพาะสำหรับ SME ไทยในกลุ่ม FMCG, Wellness, Beauty, Platform และความบันเทิง

1. แม้มีพายุ แต่เศรษฐกิจเมียนมายังไม่ติดลบ

ข้อมูลเศรษฐกิจเมียนมาปี 2025 แสดงให้เห็นว่า GDP คาดว่าจะเติบโต +1.9% (เปรียบเทียบกับไทยที่โต +1.8%) แม้จะเผชิญกับเงินเฟ้อสูงถึง +30% (เทียบกับไทย +0.7%)

เมืองใหญ่อย่าง ย่างกุ้ง มัณฑะเลย์ และท่าขี้เหล็ก ยังคงเป็นศูนย์กลางการบริโภคที่สำคัญ โดยสินค้ากว่าครึ่งในตลาดเมียนมาเป็นสินค้าจากไทย

Insight สำคัญ: แม้เศรษฐกิจดูเปราะบาง แต่ยัง "ไม่ติดลบ" และหากสถานการณ์คลี่คลาย การฟื้นตัวจะรวดเร็ว ผู้ประกอบการที่เข้าไปตั้งหลักก่อนจะได้เปรียบ

2. โครงสร้างตลาด: เข้าใจมิติทางพื้นที่

ตลาดเมียนมามี "มิติทางพื้นที่" ที่ต้องเข้าใจ:

  • ไข่แดง (ภาค): พื้นที่ภายใต้รัฐบาลทหาร
  • ไข่ขาว (รัฐ): พื้นที่กลุ่มชาติพันธุ์ เช่น มอญ กะเหรี่ยง ฯลฯ

แม้มีข้อจำกัดด้านการควบคุม แต่ก็สามารถเจาะตลาดได้ผ่านเครือข่ายชายแดน SEZ หรือการเจรจาในพื้นที่

3. โอกาสสำหรับสินค้าไทย ในวันที่คู่แข่งน้อยลง

สัดส่วนการค้าในตลาดเมียนมาปี 2024:

  • จีนครองตลาด 44%
  • ไทยเป็นอันดับ 2 ที่ 19%
  • สิงคโปร์อันดับ 3 ที่ 11%

ในสถานการณ์ปัจจุบัน หลายประเทศชะลอตัวลง กลายเป็นโอกาสสำหรับไทย โดยเฉพาะสินค้า "ที่ไม่จำเป็น แต่ผู้บริโภคเลือก" เช่น ของกิน ของใช้ เครื่องสำอาง แพลตฟอร์มความบันเทิง

4. เกมเศรษฐกิจที่ต้องเข้าใจ: อัตราแลกเปลี่ยนและใบอนุญาตนำเข้า

การค้ากับเมียนมาต้องเข้าใจ "เกม 2 ชั้น":

อัตราแลกเปลี่ยน 3 ระบบ

  • อัตราทางการ (Official Rate): 2,100 จ๊าต/USD ≈ 65 บาท
  • อัตราออนไลน์ (Online Rate): 3,615 จ๊าต/USD ≈ 111 บาท
  • อัตราตลาด (Market Rate): 4,400–4,500 จ๊าต/USD ≈ 135–140 บาท

ผลกระทบ: ผู้ประกอบการเมียนมาต้องใช้เงินบาทมากขึ้นในการนำเข้า ผู้ขายไทยต้องเข้าใจความสามารถในการซื้อที่ผันผวน

ใบอนุญาตนำเข้า (Import License)

  • สินค้ากลุ่ม "จำเป็น" (เช่น ยา เครื่องจักร) ขอใบอนุญาตได้ง่ายกว่า
  • สินค้ากลุ่ม "ทางเลือก" เช่น FMCG, Beauty ต้องมีการจับคู่กับรายได้จากการส่งออก (Export Earning) เพื่อขอใบอนุญาต

กลยุทธ์: ใครอยากขายของสวยงาม ต้องจับมือกับใครที่ส่งออกของจำเป็นไปเมียนมาได้ หรือใช้กลยุทธ์ร่วมทุน/ตั้งบริษัทท้องถิ่น

5. กลยุทธ์จากเวทีจริง: เสื่อ ร่ม และพ่อตา

ท่านทูตพาณิชย์เปรียบว่า การเจาะเมียนมาเปรียบเหมือนต้อง:

  • เสื่อ: จองที่ไว้ก่อน เข้าไปก่อนมีสิทธิ์ก่อน
  • ร่ม: ฝ่าอุปสรรค เช่น กฎระเบียบที่เปลี่ยนเร็ว
  • พ่อตา: ชนะใจหน่วยงานท้องถิ่นและพันธมิตรภายในประเทศ

6. กลุ่มสินค้าที่เหมาะเจาะกับเมียนมาตอนนี้

FMCG และ Beauty

คนเมียนมาเลือกซื้อแบรนด์ไทย แม้จะมีของจีนราคาถูกกว่า

Wellness & Herbal

พม่าเองมีทรัพยากรธรรมชาติ แต่ยังไม่มีแบรนด์ที่ชัดเจน

Platform & Entertainment

สังคมหนุ่มสาว ใช้มือถือสูง เป็นช่องทางเข้าสื่อที่ดี

ธุรกิจครอบครัว

หากมีเครือญาติ-เครือข่ายชายแดน มี leverage สูง

7. เส้นทางสู่การเติบโตที่ยั่งยืน

  • Aid for Trade: ขายของไปพร้อมพัฒนา เช่น โรงงานร่วมทุนหรือกิจการชุมชน
  • ใช้เส้นทางชายแดนใหม่: เช่น มุดง รัฐมอญ สู่ท่าเรือน้ำลึก
  • ต่อยอดสู่ BIMSTEC และอินเดีย: เมียนมาเป็นสะพานสู่ตลาดเอเชียใต้

สรุป: พ่อตาอาจเข้ม แต่ลูกสาวยังมองไทย

แม้ตลาดเมียนมาจะเต็มไปด้วยกฎ-ข้อจำกัด-ความผันผวน แต่สำหรับ SME ไทยที่กล้า เรียนรู้ และวางกลยุทธ์ถูก โอกาสยังมีมหาศาล เพราะเมื่อเมียนมากลับมาเมื่อไร ตลาดนี้จะไม่รอให้ใครมา "จองที่" ใหม่ในตลาดประเทศเดียวในโลกที่มีชายแดนติดกับทั้งจีนและอินเดีย

พร้อมบุกตลาดเมียนมาแล้วหรือยัง?

หากคุณคือผู้ประกอบการที่อยากบุกตลาดพม่า หรือขยายจากชายแดนสู่การค้าแบบมืออาชีพ ทีม SEA Bridge ยินดีช่วยออกแบบเส้นทางความสำเร็จให้คุณ ตั้งแต่การวิเคราะห์โอกาสไปจนถึงจับคู่พันธมิตรจริงในพื้นที่

Exploring the Latest in Our Blog

Related Insights