Kasper ผู้ก่อตั้ง SEA Bridge ได้รับเชิญเข้าร่วม Global InnoYouth Summit ไต้หวัน ในฐานะ 1 ใน 62 ตัวแทนนวัตกรจากทั่วโลก เพื่อสร้างความร่วมมือด้านนวัตกรรมระดับภูมิภาค
ผู้ก่อตั้ง SEA Bridge ได้รับเชิญเป็น 1 ใน 62 ตัวแทนนวัตกรจากทั่วโลก เพื่อเข้าร่วม Global InnoYouth Summit ณ กรุงไทเป ไต้หวัน ระหว่างวันที่ 28–31 กรกฎาคม 2568
งาน Global InnoYouth Summit ที่จัดขึ้นเป็นครั้งแรกนี้ เป็นเวทีระดับนานาชาติที่จัดโดย Department of Youth, Taipei City Government และดำเนินงานโดย Dots Global โดยมีเป้าหมายเพื่อเชื่อมโยงนวัตกรจากกว่า 40 เมืองทั่วโลก เพื่อร่วมกันออกแบบอนาคตด้านนวัตกรรมอย่างยั่งยืน
การได้รับเชิญครั้งนี้ถือเป็นการยอมรับในระดับสากลต่อผลงานของ SEA Bridge ในการเชื่อมโยงและพัฒนา SME ข้ามพรมแดน โดยในปีนี้มีผู้ได้รับเชิญเพียง 62 คนจากประเทศชั้นนำ อาทิ สหรัฐอเมริกา สหราชอาณาจักร เยอรมนี ญี่ปุ่น เกาหลีใต้ มองโกเลีย ภูฏาน อินโดนีเซีย และประเทศไทย
งานนี้ไม่ใช่แค่การบรรยายทั่วไป แต่เป็นการรวมตัวของผู้นำนวัตกรรมที่มาแลกเปลี่ยนมุมมองจาก MIT, NASA, McKinsey รวมถึงผู้ประกอบการที่สร้างผลกระทบในระดับภูมิภาค ซึ่งเป็นโอกาสที่ดีในการเรียนรู้แนวทางใหม่ๆ ที่จะนำมาปรับใช้กับบริบทของธุรกิจไทยและอาเซียน
"สำหรับ SEA Bridge นี่ไม่ใช่เพียงการเข้าร่วมเวทีระดับโลก แต่คือโอกาสในการสร้างเครือข่ายความร่วมมือระหว่างไต้หวันและอาเซียนที่จับต้องได้จริง"
— ผู้ก่อตั้ง SEA Bridge
การเดินทางครั้งนี้ ผู้ก่อตั้ง SEA Bridge มุ่งหวังที่จะขยายความร่วมมือใน 4 กลุ่มเป้าหมายหลัก ได้แก่:
SEA Bridge เปิดรับความร่วมมือกับ VC, Angel Syndicates และ Accelerator ที่สนใจ ช่วยให้สตาร์ทอัพจากไต้หวันขยายมายังอาเซียน รวมถึงร่วมลงทุนในธุรกิจไทยที่มีศักยภาพระดับภูมิภาค
ผ่านโครงการ SEA Bridge NextGen ที่จับคู่นักศึกษาจาก ASEAN+ กับเคสธุรกิจจริง ทีมงานต้องการร่วมพัฒนา joint programs, student placement และเวทีแข่งขันนวัตกรรมร่วมกับมหาวิทยาลัยในไต้หวัน
"ทุกปีเรามีนักศึกษาอาเซียนจำนวนมากที่เรียนอยู่ในไต้หวัน เราอยากพัฒนาโอกาสให้พวกเขาอย่างเป็นระบบ"
SEA Bridge ทำงานกับผู้ประกอบการด้าน F&B, Beauty, Wellness และ Petcare และมองว่าไต้หวันคือแหล่งนวัตกรรมที่ทั้ง ผลิตเก่ง และเข้าใจผู้บริโภคในภูมิภาค เป้าหมายคือจับมือกับ distributor, food accelerator หรือ OEM partner ที่มองไกลกว่าตลาดในประเทศ
ทีม SEA Bridge จะแบ่งปันโมเดลใหม่ที่กำลังนำร่องในอาเซียน: เมืองเป็นเจ้าภาพต้อนรับนักศึกษา ASEAN เพื่อมาร่วมพัฒนา SME ในท้องถิ่น
"หากมีเมืองในไต้หวันที่สนใจแนวคิดนี้ เราอยากร่วมกันออกแบบโครงการที่ได้ผลจริงและส่งต่อ Impact ระยะยาว"
SEA Bridge เชื่อมั่นว่า อนาคตของ SME ไทยอยู่ที่ การมีเครือข่ายระดับภูมิภาคและพันธมิตรที่ใช่ การเข้าร่วม Global InnoYouth Summit ครั้งนี้จึงไม่ใช่ความสำเร็จเฉพาะบุคคล แต่คือก้าวสำคัญของภารกิจ "เปิดประตูสู่โอกาสใหม่" เพื่อผู้ประกอบการไทยและอาเซียน
เพราะเราเชื่อว่า เครือข่ายที่ถูกต้องคือกุญแจสำคัญ ที่จะทำให้ธุรกิจไทยเติบโตได้แบบยั่งยืนและก้าวข้ามขีดจำกัดในประเทศ