Social Capital – the Series ให้คำขอบคุณที่จริงใจเป็นของฝากที่ล้ำค่า เทคนิคสร้างความสัมพันธ์ที่ยืนยาว
Social Capital – the Series: ให้คำขอบคุณที่จริงใจเป็นของฝากที่ล้ำค่า เทคนิคสร้างความสัมพันธ์ที่ยืนยาว
วันหนึ่งนักเรียนในคลาสที่ผมสอนทักมาถามว่า:
“อาจารย์ครับ ไปพบผู้ใหญ่ ต้องเอาของไปให้ไหมครับ”
ผมนั่งคิดอยู่สักพักก่อนจะตอบไปว่า “แล้วแต่สถานการณ์” — ของขวัญเป็นเจตนาดี แต่สิ่งที่ผู้ใหญ่/ที่ปรึกษาส่วนใหญ่ “อยากเห็น” คือการเติบโตของคุณ: คุณเรียนรู้อะไร เอาไปทำอะไรต่อ และกลับมาอัปเดตจริงหรือเปล่า
นั่นคือเหตุผลที่ผมสอนเรื่อง Thank You Email/Letter ในคลาสของผมที่วิศวะจุฬา เพราะในโลกธุรกิจ
We hear feedback and complaints often. We don’t hear thank you enough.
หลายปีก่อนมีน้อง ม.5 มาขอฝึกงานที่ SEA Bridge ช่วงนั้นผมยุ่งมาก เลยไม่มีเวลาได้เจอน้องตอนการนำเสนอ น้องเลยอัดวิดีโอมารายงานแทน ผมประทับใจในความสู้และความตั้งใจของน้องไม่เคยลืม
ปีถัดมาเขาติดต่อมาเขาขอให้ช่วยเขียนจดหมายแนะนำเข้า NYU Shanghai มหาวิทยาลัยในฝันของเขา ผมจำได้ว่าเขาอยากไปจีนมากๆ และเคยทำธุรกิจชายชาจีน เลยตั้งใจเขียนจดหมายนั้นให้อย่างเต็มที่
หนึ่งปีผ่านไปหลักจากนั้น
ผมได้รับอีเมลด้านล่าง
ผมดีใจมาก ๆ และขอบคุณเขาที่ทักมาอัพเดท และผมก็ขอชวนไปเลี้ยงข้าวเพื่อส่งน้องไปจีน และต่อสายแนะนำเพื่อนที่เซี่ยงไฮ้ให้เขาอีกสองคน
นี่แหละความสัมพันธ์ที่งอกงามเพราะ “คำขอบคุณ + การลงมือทำจริง ๆ” และผมก็จะเป็นแฟนคลับของน้องเสมอไป
สุดที่ผมเชื่อว่า "ผู้ใหญ่" อยากเห็นคือการเจริญเติบโตและความก้าวหน้าในชีวิตและการงาน
จากประสบการณ์ทำงานกับผู้ประกอบการรุ่นใหม่และนิสิตนักศึกษา ผมจะเล่าหลักคิดในการขอบคุณด้วย 3 หัวข้อนี้:
ของขวัญสวย ๆ แพง ๆ ไม่ได้ทำให้เราเป็นที่จดจำ หลังได้รับมันแล้วอาจลืมได้เลย (ยกเว้นของขวัญนั้นถูกใจจริง ๆ) แต่ “ข้อความที่ชี้ชัดว่าเราได้อะไรและลงมือทำอะไรไปแล้ว” จะทำให้ผู้ใหญ่จำได้ไม่รู้ลืม
ทำตามที่บอกไว้ กลับมาอัปเดต once in a while ให้เห็นความคืบหน้าอย่างต่อเนื่อง
เราสามารถใช้ LINE ขอบคุณสั้น ๆ บ่อย ๆ ได้ และใช้ Email เพื่อเขียนรายละเอียดที่มากขึ้น ส่วนตัวผมเองจะเขียนจดหมายด้วยมือปีละครั้งให้กับคนที่ผมรู้สึกขอบคุณจริง ๆ
ครั้งหนึ่งผู้ใหญ่ที่ปรึกษา ที่เป็นถึงอดีตรัฐมนตรี เปิดจดหมายขอบคุณที่ผมเขียนด้วยมือต่อหน้าผม อ่านแล้วยิ้ม “This is most meaningful.”
โครงนี้ใช้ได้ทั้ง LINE, Email และจดหมาย
เกริ่นวันที่/โอกาสที่เพิ่งเจอกัน แล้วขอบคุณในสิ่งที่ได้เรียนรู้และยกตัวอย่าง
ตัวอย่าง: “ขอบคุณพี่ที่สละเวลาหลังงานสัมมนาเมื่อวานครับ ได้เห็นพี่ ‘เดินเข้าหาคนหลังจบประชุม’ ทำให้ผมเรียนรู้ว่า การเริ่มต้นไม่ต้องรอคอย”
สะท้อนการลงมือแบบจับต้องได้ เพื่อให้เขารู้ว่าคำแนะนำของเขามีคุณค่า
ตัวอย่าง: “ผมส่งอีเมล follow-up หา 4 รายเรียบร้อย และนัดคอลลูกค้าเดิมสัปดาห์หน้าตามคำแนะนำเรียบร้อยครับ”
สร้างความสัมพันธ์ ไม่ใช่เพียงแต่ปิดบทสนทนา (แต่คุณต้องอัปเดทเขาจริง ๆ )
ตัวอย่าง: “ขออนุญาตอัปเดตผลลัพธ์อีกครั้งปลายเดือนนะครับ ถ้ามีอะไรที่ผมช่วยพี่ได้ก็บอกได้เลยครับ”
หากคุณได้รับประโยชน์จากบทความนี้ และเอาไปใช้จริง ผมอยากฟังเรื่องของคุณ — มาอัปเดตกันนะครับ
เพราะ ความสุขของอาจารย์ คือการได้เห็นลูกศิษย์เติบโต เจริญก้าวหน้า และมีความสุข