เจาะลึกกลยุทธ์ Soft Power จากแฟชั่นฝรั่งเศส สู่แนวทางสร้างแบรนด์ไทยให้ก้าวไกลระดับโลก ด้วยบทเรียนจาก Designer in Residence โดย Jayne Simone Esteve Cure
เมื่อพูดถึงแฟชั่นฝรั่งเศส ภาพของความหรูหราและความประณีตในรายละเอียดย่อมลอยขึ้นมาในใจทันที แต่เบื้องหลังความสำเร็จนั้นคือกระบวนการสร้าง Soft Power ซอฟต์พาวเวอร์ การทำให้คนตกหลุมรักโดยไม่รู้ตัว อย่างเป็นระบบยาวนานหลายร้อยปี
ในงานสัมมนา "ทิศทางและการปรับของอุตสาหกรรมแฟชั่นไทย" เป็นส่วนหนึ่งของโครงการ "The Designer in Residence" จัดโดยสถาบันพัฒนาอุตสาหกรรมสิ่งทอ ซึ่งดำเนินงานมากว่า 30 ปี ภายใต้ความร่วมมือกับวิทยากรผู้เชี่ยวชาญระดับนานาชาติ เจน ซีโมน เอสเตฟ กูเร (Jayne Simone Esteve Cure) นักวางกลยุทธ์แบรนด์แฟชั่นฝรั่งเศสที่ปรึกษาด้านกลยุทธ์แฟชั่นหรูและความคิดสร้างสรรค์ ได้สะท้อนมุมมองการใช้พลังนุ่มอย่างเฉียบคมจากประสบการณ์ในเวทีแฟชั่นระดับโลก
Soft Power คือการทำให้ผู้คน "หลงรัก" ประเทศและสินค้าของเราโดยไม่รู้ตัว หรือที่ภาษาอังกฤษใช้คำว่า "soft spot"
แฟชั่นคือเครื่องมือสื่อสารอารมณ์และตัวตนระดับโลก เป็นภาษาที่ไร้พรมแดน และมีอิทธิพลสูงต่อภาพลักษณ์ของประเทศ
คือการอยู่ตรงกลางระหว่าง "สินค้ามาตรฐานสากล" กับ "งานฝีมือท้องถิ่น" เป็นแฟชั่นที่มีรากแต่สื่อสารได้ในระดับสากล
"แฟชั่นไม่ใช่แค่เรื่องของผ้า แต่คือการออกแบบความสัมพันธ์ระหว่างวัฒนธรรม ตัวตน และผู้คน"
เขาคือใคร ใช้ชีวิตอย่างไร แต่งตัวยังไง ซื้อของจากไหน ใส่แบรนด์อะไรอยู่ และเราจะเข้าไปอยู่ใน "ตู้เสื้อผ้าของเขา" ได้อย่างไร
นักท่องเที่ยวซื้อเพราะความแปลก แต่ผู้ใช้จริงต้องการของที่เชื่อมโยงกับชีวิตเขาได้จริง
ไม่ต้องขายของเหมือนกันก็ได้ แต่ต้องอยู่ในวิถีชีวิตเดียวกัน เช่น เสื้อผ้ากับเครื่องดื่ม หรือศิลปะกับกลิ่นหอม
ประเทศไทย = อาเซียนในสายตาชาวโลก อย่ารีบ "บินไปออกงานแฟร์" โดยไม่รู้จักตัวเองดีพอ
จากการนำเสนอของเจน เราเห็นว่าแฟชั่นฝรั่งเศสสร้างความแข็งแกร่งผ่านหลายกลไก:
ระบบปกป้องและยืนยันมาตราฐาน ที่เปรียบได้กับแชมเปญของเครื่องดื่ม มีการควบคุมคุณภาพและมาตรฐานอย่างเข้มงวด
มีทั้งสถานที่สำคัญ (หอไอเฟล), สถาบันการศึกษา (สถาบันแฟชั่นฝรั่งเศส, เอสมอด), และเวทีการแสดง (ปารีส แฟชั่น วีค)
ไม่ใช่แค่แฟชั่น แต่รวมศิลปะ อาหาร ชายหาดเป็นวิถีชีวิตเดียวกัน
ใช้แฟชั่นเป็นเครื่องมือทางการทูตวัฒนธรรมและเศรษฐกิจ
จิตวิญญาณแห่งยุคสมัย (Air du Temps แอร์ ดู ตอง) หมายถึงการอยู่ร่วมกับ "สิ่งที่โลกกำลังคิดและรู้สึก" แบบร่วมสมัย
เจนย้ำว่า การจะเข้าสู่เวทีโลก ต้องให้เวลาอย่างน้อย 3 ฤดูกาล หรือ 3 ปี โดยมีองค์ประกอบสำคัญ:
หาก Soft Power คือการดึงดูด แฟชั่นคือภาษาที่แสดง "ความน่ารักของชาติ" ได้โดยไม่ต้องพูด
ประเทศไทยไม่ขาดศักยภาพ เราขาดเพียง "ระบบ" และ "ทิศทางร่วม" หากภาครัฐ เอกชน และนักออกแบบไทยร่วมมือกัน การนำแฟชั่นไทยสู่ระดับโลกจะไม่ใช่เรื่องของฝัน แต่เป็นเรื่องของการวางแผน
ผู้เขียนขอขอบคุณผู้อำนวยการสถาบันพัฒนาอุตสาหกรรมสิ่งทอ ที่เปิดพื้นที่สำคัญนี้ และหวังว่าบทความนี้จะเป็นพลังให้ผู้ประกอบการไทยทุกคนถามคำถามสำคัญกับตัวเองว่า:
"แบรนด์ของคุณ กำลังขายอะไร กับใคร และเขาจะรักคุณได้อย่างไร?"