27 ปีก่อน “ปลา–อัจฉรา บุรารักษ์” หรือที่คนรู้จักกันในชื่อ “ปลา iberry” เริ่มต้นธุรกิจตั้งแต่อายุเพียง 22 ปี กับร้านไอศกรีมเล็ก ๆ ภายใต้ชื่อ iberry แต่จากเส้นทางกว่า 2 ทศวรรษ วันนี้เธอคือเจ้าของ 4 บริษัท 18 แบรนด์ร้านอาหาร ที่กลายเป็นแรงบันดาลใจให้ผู้ประกอบการรุ่นใหม่มากมาย
สิ่งที่น่าสนใจคือ iberry Group ไม่ได้ยึดติดอยู่แค่ธุรกิจของหวาน เพราะเธอเห็นว่า ธุรกิจไอศกรีมมีวงจรสั้น จึงปรับตัวเข้าสู่ธุรกิจร้านอาหาร ผ่าน “กับข้าวกับปลา” และ “โรงสี” ก่อนจะค่อย ๆ หาจุดลงตัวในการสร้างแบรนด์ที่ยืนระยะได้ยาวกว่า
หลายคนอาจคิดว่า “ทำอาหารเก่ง” คือกุญแจสู่ความสำเร็จ แต่คุณปลากลับบอกชัดว่า ทีมงานคือสิ่งสำคัญที่สุด
นี่คือเหตุผลที่ iberry Group มีทีมงานที่ทำงานร่วมกันยาวนานถึง 10–20 ปี และนี่เองคือทุนมนุษย์ที่ทำให้ธุรกิจโตต่อเนื่อง
การขยายร้านอาหารไม่ใช่แค่เปิดสาขาเพิ่ม แต่คือการทำให้ลูกค้าทุกคนได้รับประสบการณ์ที่ “เหมือนกัน” ทุกครั้งที่เข้าร้าน
สิ่งที่ iberry Group ให้ความสำคัญคือ
สิ่งเหล่านี้อาจไม่หวือหวาเหมือนหน้าร้าน แต่คือเสาหลักที่ทำให้แบรนด์ยืนระยะได้จริง
ในโลกที่ร้านอาหารเปิดใหม่แทบทุกวัน สิ่งที่ลูกค้าเลือกไม่ใช่แค่เมนู แต่คือ ความไว้วางใจ
ลูกค้าจะตัดสินใจจ่ายเงินต่อมื้อ หากมั่นใจว่า “กินแล้วคุ้ม” และฐานแฟนคลับที่ภักดีต่อแบรนด์แรก ๆ จะทำให้การเปิดแบรนด์ใหม่ง่ายขึ้น
แต่ความไว้วางใจสร้างยากและเสียได้ง่าย นี่คือเหตุผลที่ iberry Group ไม่ประมาทกับคุณภาพเลยแม้แต่มื้อเดียว
คุณปลามองว่าการตั้งราคาไม่ใช่ตัวเลข แต่คือการวางตำแหน่งของแบรนด์
นี่คือการทำให้แบรนด์อยู่ในใจคนได้ทั้งกลุ่มแมสและกลุ่มที่มองหาคุณภาพ
แม้จะบริหารธุรกิจขนาดใหญ่ แต่คุณปลาเลือกนิยามตัวเองว่า Creative Director ไม่ใช่ CEO เธอโฟกัสที่การสร้างแรงบันดาลใจ ตั้งชื่อร้านให้น่าจดจำ และเดินทางเพื่อเก็บไอเดียมาต่อยอด
สำหรับเธอ “อาหาร” ไม่ได้ขายแค่รสชาติ แต่ขาย ประสบการณ์และเรื่องราว ที่ลูกค้ารู้สึกมีส่วนร่วม
เส้นทางไม่ได้โรยด้วยกลีบกุหลาบ iberry Group เคยขาดทุนครึ่งหนึ่งของสาขา จนคุณปลาต้องเผชิญภาวะซึมเศร้า แต่เธอเลือกที่จะ “ปล่อยวาง” ความสำเร็จเก่า ๆ และไม่ผูกตัวเองไว้กับคำว่า iberry เพียงอย่างเดียว
การล้มเหลวครั้งนั้นทำให้เกิด “กับข้าวกับปลา” ที่ชัดเจนขึ้น และสอนเราว่า วิกฤตไม่ใช่จุดจบ แต่เป็นจุดเริ่มใหม่เสมอ
ปัจจุบัน iberry Group กำลังมุ่งสู่การขยายตลาดต่างประเทศ การจะทำเช่นนั้นได้ ต้องอาศัยทั้ง ทีมงานที่แข็งแรง ระบบหลังบ้านที่พร้อม และพาร์ทเนอร์ที่ดี
สำหรับผู้ประกอบการรุ่นใหม่ บทเรียนคือการไม่หยุดอยู่กับที่ และต้องคิดเสมอว่าแบรนด์ที่สร้างขึ้นสามารถ Scale ได้ระดับ Regional และ Global