AI และ Social Listening กลายเป็นเครื่องมือสำคัญสำหรับ SME ไทยที่ต้องการขยายตลาดส่งออกอย่างแม่นยำ เข้าใจผู้บริโภคต่างประเทศได้ลึกกว่าเดิม
ในยุคที่ผู้บริโภคต่างประเทศไม่ได้รอแค่สินค้ามาถึง แต่รอฟังว่าแบรนด์ “เข้าใจเขาหรือเปล่า” — การส่งออกแบบเดิมๆ ไม่พออีกต่อไป ผู้ประกอบการไทยจำเป็นต้อง “ฟัง” ตลาดปลายทางให้ชัดก่อนจะพูด
หนึ่งในเครื่องมือที่น่าจับตา คือ Social Listening ที่ขับเคลื่อนด้วย AI ไม่ใช่แค่ดูยอดไลก์หรือ buzzword แต่สามารถวิเคราะห์ “อารมณ์ ความต้องการ และพฤติกรรมจริง” จากโลกออนไลน์นับล้านข้อความ และที่สำคัญ — วิเคราะห์ได้แยกตามประเทศ แพลตฟอร์ม และภาษา
ในเวที SCB ITP #7 ที่ SEA Bridge ร่วมดูแลในฐานะ Course Director เราได้เชิญ คุณกล้า ตั้งสุวรรณ CEO แห่ง Wisesight ผู้บุกเบิกวงการ Social Listening ของไทย มาร่วมแลกเปลี่ยนว่า AI และการวิเคราะห์ข้อมูลจากโลกโซเชียล ช่วยผู้ประกอบการส่งออกอย่างไรบ้าง
หนึ่งในสาระสำคัญคือ การเข้าใจว่า "แต่ละประเทศพูดไม่เหมือนกัน" และนั่นแปลว่า ผู้ประกอบการต้องฟังแบบละเอียดระดับจิตวิทยา ไม่ใช่แค่สถิติ
จากข้อมูล Social Listening ที่คุณกล้าแชร์ เราพบว่าแม้จะเป็นอาเซียนเหมือนกัน แต่พฤติกรรมผู้บริโภคต่างกันมาก เช่น:
และที่สำคัญที่สุด — ในเวียดนาม ผู้คนพูดถึงคำว่า “authentic” หรือของแท้ อย่างมีนัยยะสำคัญ
หมายถึงพวกเขาไม่ได้แค่ซื้อของ “อร่อย” หรือ “ดัง” — แต่ต้องการรู้ว่า "ต้นกำเนิดคืออะไร? ของแท้ไหม?"
GI, ภูมิปัญญาท้องถิ่น, หรือความจริงใจในแบรนด์ = อาวุธสำคัญในการเจาะเวียดนาม
ถ้าเราฟังลูกค้าไม่เป็น จะสื่อสารอย่างไรก็ไม่ตรง
แต่ถ้าเราฟังได้ดีพอ — เราจะไม่เพียงแค่ “ขายได้” แต่สามารถ “สร้างตลาดใหม่” ได้ด้วย
ในโลกที่ผู้บริโภคเปลี่ยนเร็ว การใช้ข้อมูลจริง (Data-driven export) คือสิ่งที่ SME ไทยควรเริ่มทันที ไม่ว่าจะอยู่ระดับไหน
ผู้ประกอบการที่ฟังเป็น = ขายได้ดีกว่า
ผู้ประกอบการที่เข้าใจความรู้สึก = สร้างแบรนด์ได้ยั่งยืนกว่า