จากกิโมโนเก่าสู่สนีกเกอร์สุดชิค: Tokyo Kimono Shoes กับภารกิจคืนชีพมรดกญี่ปุ่น

Tokyo Kimono Shoes พลิกฟื้นกิโมโนเก่าในตู้เสื้อผ้าญี่ปุ่นให้กลายเป็นรองเท้าสนีกเกอร์แฟชั่น ส่งออกทั่วโลก พร้อมช่วยรักษาอุตสาหกรรมหัตถกรรมดั้งเดิม

กรณีศึกษาสำหรับ NextWave: การออกแบบธุรกิจจากของเหลือทิ้งสู่ตลาดโลก

ในขณะที่กิโมโนเป็นสัญลักษณ์ลึกซึ้งของอัตลักษณ์ญี่ปุ่น แต่ในปัจจุบันกลับถูกจำกัดไว้เพียงงานพิธีการและเก็บอยู่ในตู้เสื้อผ้าทั่วประเทศ โดยนักวิเคราะห์คาดว่ามีมูลค่าหลายพันล้านดอลลาร์ที่ยังไม่ถูกนำมาใช้ประโยชน์

คุณ Shotaro Kawamura

Shotaro Kawamura ผู้ประกอบการและ CEO ของ Potato Ltd. มองเห็นโอกาสจากสิ่งที่คนส่วนใหญ่มองว่า “หมดค่า” เขาร่วมมือกับช่างฝีมือญี่ปุ่นในการแปลงกิโมโนเก่าให้กลายเป็นสนีกเกอร์ผ่านแบรนด์ที่ชื่อว่า Tokyo Kimono Shoes

แนวคิดธุรกิจ: พลิกอดีตสู่อนาคต

Kawamura กล่าวไว้ว่า

“โดยการเปลี่ยนรูปแบบให้ผ้าเหล่านี้สามารถใช้ได้ในชีวิตประจำวัน เราสามารถรักษาวัฒนธรรมในรูปแบบใหม่ได้”

เขาทำงานร่วมกับโรงงานทำรองเท้าแบบหัตถกรรมในย่านอาซากุสะ ซึ่งมีประวัติยาวนานตั้งแต่ยุค 1950 หนึ่งชุดกิโมโนสามารถผลิตรองเท้าได้ถึง 20 คู่ โดยจำหน่ายในราคาคู่ละราว 325 ดอลลาร์สหรัฐ (ประมาณ 10,558 บาท)

“เราตั้งใจเลือกสนีกเกอร์ เพราะทุกคนใส่ และใส่ได้ทุกวัน”
— Kawamura

จุดเริ่มต้นจากครอบครัวหนึ่งสู่กระแสทั่วโลก

ต้นทางของรองเท้าเหล่านี้เริ่มจากโรงงาน AxT Inc. ที่เริ่มใช้ผ้ากิโมโนเก่าของคุณแม่เจ้าของโรงงานมาแปลงเป็นรองเท้าในปี 2020 ซึ่งเดิมมีเพียงตลาดเฉพาะกลุ่ม แต่ Kawamura ซึ่งมีประสบการณ์ในด้านโลจิสติกส์และการค้า มองเห็นศักยภาพในตลาดโลก จึงเปิดตัวบนแพลตฟอร์ม Makuake และสามารถระดมทุนได้กว่า 8.5 ล้านเยน (ประมาณ1,900,000 บาท)(จากเป้า 300,000 เยน)

ในเวลาไม่นาน Tokyo Kimono Shoes ก็เปิดตัวอย่างเป็นทางการ และขายหมด 40 คู่แรกภายใน 3 วัน ปี 2024 พวกเขาขายไปแล้วกว่า 4,500 คู่ และรีไซเคิลกิโมโนไปแล้ว 690 ชุด (ประมาณ 2,732 ตร.ม.)

หัตถกรรมแบบญี่ปุ่น = ความแตกต่างที่จับต้องได้

รองเท้าทุกคู่ผลิตด้วยมือ และแต่ละคู่มีลวดลายเฉพาะตัวตามกิโมโนที่ใช้ งานฝีมือเหล่านี้ไม่เพียงสร้างรายได้ให้ช่างฝีมือ แต่ยังช่วยรักษาอุตสาหกรรมหนังและรองเท้าในอาซากุสะ

ภาพจากเว็บของ Tokyo Kimono Shoes

Tokyo Kimono Shoes ยังต่อยอดทำกระเป๋าหนังจากเศษผ้ากิโมโน พร้อมเปิดตัวแบรนด์ใหม่ “Kimono Reborn Tokyo” ที่มีผลิตภัณฑ์หลากหลาย เช่น เสื้อยืด หมวก และถุงผ้า โดยในระยะเวลาเพียง 14 เดือน ได้รีไซเคิลกิโมโนไปกว่า 1,060 ชุด (ราว 4,160 ตร.ม.)

ภาพจาก Kimono Reborn Tokyo

กลยุทธ์ขยายผล: จากรองเท้า สู่บ้านพักสไตล์กิโมโน

ล่าสุด Kawamura เปิดสาขาใหม่ที่สนามบินนาริตะ พร้อมแผนต่อยอดในผลิตภัณฑ์ของตกแต่งบ้าน เฟอร์นิเจอร์ และแม้แต่ “โรงแรมกิโมโน” สำหรับนักท่องเที่ยวต่างชาติ โดยยังร่วมมือกับสถาบันออกแบบ ODA Fashion College เพื่อส่งต่อทักษะให้คนรุ่นใหม่

“เราต้องการให้ผู้คนเห็นว่าสิ่งเก่ายังมีคุณค่า เพียงแค่เปลี่ยนรูปแบบ มันจะยิ่งน่าสนใจและคงอยู่ต่อไปได้”

บทเรียนสำหรับผู้ประกอบการไทย:

NextWave Takeaways

  • ของเหลือทิ้ง = ทุนวัฒนธรรม: กิโมโนเก่าที่ดูไม่มีค่าในตู้ กลับกลายเป็นสินค้ามูลค่าสูงเมื่อผนวกกับงานฝีมือ
  • การแปรรูปวัฒนธรรม (Cultural Transformation): ไม่ใช่แค่รักษาวัฒนธรรมแบบเดิม แต่เปลี่ยนให้เข้ากับบริบทโลกยุคใหม่
  • ตลาดโลกต้องการความแตกต่าง: งานคราฟต์ที่มีเรื่องราว ช่วยให้แบรนด์ญี่ปุ่นแตกต่างบนเวทีโลกได้อย่างแท้จริง
  • โมเดลเพื่อไทย: ผู้ประกอบการไทยสามารถนำแนวคิดนี้ไปต่อยอด เช่น การแปรรูปผ้าไทย, เครื่องจักสาน, หรือสินค้าวัฒนธรรมอื่นๆ เพื่อสร้างผลิตภัณฑ์สมัยใหม่ที่มีรากเหง้า

รองเท้ากิโมโน, อัพไซเคิลกิโมโน, ธุรกิจรักษ์โลกญี่ปุ่น, แฟชั่นยั่งยืนญี่ปุ่น, case study แบรนด์ญี่ปุ่น, circular economy ญี่ปุ่น, startup วัฒนธรรม

บทความต้นฉบับภาษาอังกฤษจาก CNN

Exploring the Latest in Our Blog

Related Insights