Soft Power อีสาน: พลังเศรษฐกิจสร้างสรรค์ที่กำลังเปลี่ยนเกมธุรกิจไทย

เจาะลึกเศรษฐกิจ Soft Power อีสาน ปี 2566 สร้างรายได้กว่า 38,778 ล้านบาท จากหมอลำ อาหาร กีฬา สู่เทศกาลสร้างสรรค์ระดับอาเซียน พร้อมเปิดโอกาสใหม่กับ Isan Bridge Hackathon 2025

เมื่อพูดถึง “Soft Power” หลายคนอาจนึกถึงซีรีส์เกาหลีหรือแบรนด์แฟชั่นระดับโลก แต่ถ้ามองลึกลงไปในประเทศไทย โดยเฉพาะ “ภาคอีสาน” เรากำลังเห็นพลังเงียบที่กำลังเขย่าภูมิทัศน์เศรษฐกิจไทยอย่างแท้จริง

Soft Power ไม่ได้เป็นเพียงเครื่องมือส่งออกวัฒนธรรม แต่กำลังกลายเป็นยุทธศาสตร์การพัฒนาเศรษฐกิจระดับภูมิภาค โดยเฉพาะในอีสาน ที่กำลังเปลี่ยนจากภูมิภาคชายขอบให้กลายเป็นศูนย์กลางของพลังสร้างสรรค์ใหม่

อุบลราชธานี แซง โคราช ขอนแก่น: หน้าใหม่ที่มาแรง

ข้อมูลจากกรมพัฒนาธุรกิจการค้าในปี 2566 ระบุว่า จังหวัดอุบลราชธานีทำรายได้จากธุรกิจ Soft Power สูงสุดในภาคอีสาน ทะลุ 6,400 ล้านบาท แซงหน้าจังหวัดใหญ่อย่างนครราชสีมา (โคราช) และขอนแก่นที่เคยเป็นศูนย์กลางเศรษฐกิจของภาค

โดยกลุ่มธุรกิจที่สร้างรายได้สูงสุดในอุบลฯ และบุรีรัมย์ คือธุรกิจอาหาร โดยเฉพาะผลิตภัณฑ์จากสุรากลั่นของบริษัทท้องถิ่นที่มีขนาดใหญ่ เช่น บริษัทเอส.เอส.การสุรา และบริษัทอธิมาตร นอกจากนี้ บุรีรัมย์ยังมีรายได้จากกลุ่มกีฬา เช่น สนามช้างอารีนา และช้างอินเตอร์เนชันแนลเซอร์กิต รวมกันกว่า 1,300 ล้านบาท ยืนยันสถานะ “เมืองกีฬา” ของอีสานได้อย่างชัดเจน

ขอบคุณ Infographics จากทาง Isan Insights

ธุรกิจสร้างสรรค์ = เครื่องยนต์เศรษฐกิจใหม่ของอีสาน

สำนักงานส่งเสริมเศรษฐกิจสร้างสรรค์ (CEA) ระบุว่า ธุรกิจ Soft Power ประกอบด้วย 15 สาขาหลัก เช่น ดนตรี แฟชั่น อาหาร งานฝีมือ การออกแบบ ท่องเที่ยว วัฒนธรรม และกีฬา ซึ่งครอบคลุมกิจกรรมเศรษฐกิจหลากหลายของภาคอีสาน

จากข้อมูลพบว่าภาคอีสานมีผู้ประกอบการรวมกว่า 395,846 ราย ทั้งในระบบและนอกระบบ ซึ่งสะท้อนถึงศักยภาพและความหลากหลายของเศรษฐกิจฐานราก

เทศกาล ISAN Creative Festival (ISANCF) ที่จัดขึ้นต่อเนื่องมาตั้งแต่ปี 2021 จนถึง 2024 ช่วยเร่งความตื่นตัวในภาคอีสาน โดยสร้างมูลค่าทางเศรษฐกิจรวมกว่า 1,500 ล้านบาท พร้อมทั้งกระตุ้นการมีส่วนร่วมของประชาชน นักศึกษา ศิลปิน และผู้ประกอบการทั่วภูมิภาค

หมอลำ: จากเวทีท้องถิ่นสู่โอกาสระดับโลก

หนึ่งในอุตสาหกรรม Soft Power ที่เติบโตเร็วที่สุดคือ “หมอลำ” ซึ่งไม่ใช่แค่ศิลปะพื้นบ้านแต่เป็นอุตสาหกรรมขนาดใหญ่

ข้อมูลจากโครงการ Isan Insight & Outlook โดยมหาวิทยาลัยขอนแก่น ระบุว่า:

  • มีผู้ชมหมอลำในไทยกว่า 20 ล้านคน/ปี
  • มีการจัดแสดงมากถึง 2,596 รอบ เฉลี่ยเกือบทุกวันตลอดปีในอีสาน
  • วงหมอลำเริ่มลงทุนสูงในโชว์ เช่น ระบบแสง สี เสียง และคอสตูม ส่งผลให้ยอดจ้างงานเพิ่มขึ้นกว่า 40–45% หลังยุคโควิด

กลุ่มเป้าหมายสำคัญนอกจากคนอีสานในพื้นที่ ยังรวมถึงชาวอีสานที่ย้ายถิ่นไปทำงานในกรุงเทพฯ ปริมณฑล และภาคตะวันออก ที่ยังผูกพันกับวัฒนธรรมหมอลำอย่างลึกซึ้ง โดยพบว่า 60% ของผู้ชมดูหมอลำแบบออนกราวด์เท่านั้น แสดงให้เห็นถึงโอกาสการต่อยอดผ่านช่องทางดิจิทัล เช่น TikTok, YouTube หรือแพลตฟอร์มสตรีมมิ่งยังเปิดกว้าง

ข้อสังเกตและโอกาส

แม้ว่า Soft Power จะสร้างรายได้อย่างมหาศาล แต่เรายังพบว่า รายได้ส่วนใหญ่กระจุกตัวอยู่ในจังหวัดใหญ่ เช่น อุบลฯ ขอนแก่น และโคราช ขณะที่จังหวัดเล็กยังขาดโอกาสและการสนับสนุนอย่างเป็นระบบ

นี่คือเหตุผลที่ SEA Bridge มองเห็นว่า การพัฒนา Soft Power จะต้องไม่หยุดอยู่แค่เทศกาล แต่ควรเป็น “โครงสร้างเศรษฐกิจ” ที่เปิดโอกาสให้ชุมชนเล็กและเยาวชนในภูมิภาคสามารถเข้าถึงตลาด วงการสร้างสรรค์ และแหล่งทุนได้จริง

SEA Bridge x อีสาน: ปลดล็อก Soft Power สู่ธุรกิจใหม่

Isan Bridge: Soul Proud Hackathon 2025 คือกิจกรรมที่ SEA Bridge ร่วมจัดกับมหาวิทยาลัยขอนแก่น, CEA และภาคีเครือข่ายทั่วภาคอีสาน เพื่อเปิดเวทีให้นักศึกษาและผู้ประกอบการรุ่นใหม่ได้ต่อยอด “ของดีอีสาน” ให้กลายเป็นโมเดลธุรกิจจริง

เราเชื่อว่า Soft Power ไม่ใช่แค่การเล่าเรื่อง แต่เป็นการสร้างระบบใหม่ที่คนท้องถิ่นเป็นเจ้าของเศรษฐกิจสร้างสรรค์ของตัวเองอย่างแท้จริง

มาร่วมกันผลักดันพลังสร้างสรรค์จากอีสาน สู่เวทีโลก

ขอขอบคุณข้อมูลจาก:

  • กรมพัฒนาธุรกิจการค้า
  • สำนักงานส่งเสริมเศรษฐกิจสร้างสรรค์ (CEA)
  • โครงการ Isan Insight & Outlook โดยมหาวิทยาลัยขอนแก่น
  • https://isaninsight.kku.ac.th/archives/8509
Exploring the Latest in Our Blog

Related Insights